WooCommerce

Add To Cart
บทความนี้ CodingDee จะมาแชร์ประสบการณ์ที่เราได้ทดลองปรับปรุงปุ่ม Add To Cart สำหรับร้านค้า WooCommerce ว่าทำยังให้ลูกค้าสามารถใช้งานใน Mobile ได้ดีขึ้น กดได้ง่ายขึ้น มาดูวิธีทำกันเลยครับ   "วิธีแก้ไขปุ่ม Add To Cart" ให้ลูกค้าใช้ง่ายขึ้น ปุ่มแบบเดิม ปุ่ม Add To Cart แบบเดิมที่ WooCommerce ให้มาเวลาลูกค้าเลื่อนดูรายละเอียดสินค้า ปุ่มมันจะไม่ตามไปเวลาเรา scoll ซึ่งใช้งานในโมบายได้ค่อนข้างยาก จะกดปุ่มแต่ละครั้งลูกค้าต้อง scoll กลับขึ้นมาด้านบนของเพื่อกด Add To Cart เรื่อง UI ยังไม่เป็นปัญหาเท่าไหร่แต่ UX นี้ไม่ดีเลย ผมเลยลองหาดูตัวอย่างจากเว็บ E-Commerce อื่น ๆ ว่าเค้าทำยังไง ผมเข้าไปดูที่ Lazada ว่าเค้าจัดการวางปุ่มพวกนี้ยังไง โดยเฉพาะเมื่อเข้าผ่านโทรศัพท์ปรากฏว่าเค้าใช้วิธีให้ปุ่มแสดงอยู่ที่ด้านล่างของจอใกล้ ๆ นิ้วหัวแม่มือเราเพื่อให้ง่ายแก่การกดปุ่ม Add To Cart และเวลา scoll อ่านรายละเอียดสินค้า ปุ่มนี้ก็ยังคงเลื่อนตามเราตลอด ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาเลื่อนไปเลื่อนมา กดได้สะดวกขึ้น ลองดูภาพถัดไปเมื่อผมลองย้ายปุ่มมาไว้ด้านล่าง ปุ่ม Add To Cart...
ecommerce tracking
Ecommerce Tracking สร้างได้ใน 7 ขั้นตอน ช่วยให้เราวัดผล Conversion บนเว็บไซต์ได้ง่ายขึ้น เหมาะสำหรับทีม Marketing เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลการสั่งซื้อสินค้า..  Ecommerce Tracking สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่า E-commerce Tracking คืออะไร แล้วทำไปทำไม ผมจะอธิบายให้เข้าใจในเบื้องต้นก่อนนะครับ E-commerce Tracking ก็คือการติดตามพฤติกรรมการซื้อของลูกค้าที่เข้ามาซื้อสินค้าภายในเว็บไซต์ของเรา ว่าเค้ามีพฤติกรรมการใช้งานอย่างไรบ้างเช่น ลูกค้าเข้าเว็บเรามาจากช่องทางไหน อาจจะมาจาก Facebook หรือมาจาก Google Search เป็นต้น สินค้าในเว็บเราถูกขายไปแล้วรวมทั้งหมดเป็นเงินกี่บาท สินค้าชนิดไหนขายดีที่สุด ลูกค้าชำระเงินผ่านช่องทางไหนมากที่สุด ลูกค้าเลือกช่องทางจัดส่งสินค้าช่องทางไหนมากที่สุด ถ้าเรามีข้อมูลพวกนี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากช่วยให้เราสามารถวิเคราะห์ได้ว่าเราจะวางแผนทำอะไรต่อไปเพื่อเพิ่ม Conversion Rate (เปอร์เซ็นต์การสั่งซื้อสินค้าภายในเว็บไซต์) ให้มากขึ้น ยกตัวอย่าง จากการวิเคราะห์ข้อมูลแล้วเราพบว่า ลูกค้าส่วนใหญ่มาจาก Google Search เข้ามาทางบทความ A นั้นหมายความว่า บทความ A เป็นบทความที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อของลูกค้า แสดงว่าเราต้องให้ความสำคัญกับบทความ A นี้เป็นพิเศษ อาจจะทำ Optimize หน้านี้ให้โหลดเร็วมากขึ้น ลูกค้าจะได้ไม่ต้องรอนาน ถ้าหน้าเว็บโหลดนานก็มีโอกาสที่ลูกค้าจะปิดหน้าเว็บออกไปทำให้เสียลูกค้าไป สินค้าชนิด B ขายดีที่สุด เราก็ควรจะสั่ง stock สินค้าชนิด...
Ninja Forms
Ninja Forms ปลั๊กอินสร้างแบบฟอร์มที่โคตรเทพ ใช้งานง่าย ฟังก์ชั่นครบครัน ลงตัวนี้ตัวเดียวลืม CF7 ไปได้เลย Ninja Forms ถ้าพูดถึงปลั๊กอินสำหรับใช้สร้างแบบฟอร์ม หลายคนคงจะนึกถึง  Contact Form 7 (CF7) ใช่ไหมครับ ไม่แปลกเพราะก่อนหน้านี้ผมเองก็ใช้ CF7 มาตลอดแต่ CF7 มันไม่มีฟีเจอร์ที่เก็บข้อมูลลงดาต้าเบส ถ้าอยากให้มันเก็บข้อมูลลงดาต้าเบสได้เราต้องลงปลั๊กอิน  Contact Form Submissions  หรือ  Contact Form 7 Database Addon – CFDB7  เพิ่ม ผมก็ลองค้น Google หาปลั๊กอินดูจนมาเจอปลั๊กอินนี้ พอลองใช้ดูแล้วก็ติดใจมาก ใช้ง่ายกว่า CF7 มากและเก็บข้อมูลลงดาต้าเบสได้ด้วย มาดูกันครับว่าทำไมผมถึงเปลี่ยนจากจาก CF7 มาใช้ปลั๊กอินนี้แทน 1.รองรับ Google reCaptcha ปลั๊กอินสามารถใส่ Google reCaptcha ได้ด้วยเพื่อป้องกัน Spam (ข้อนี้ CF7 เองก็มีเหมือนกัน) 2.รองรับภาษาไทย ตัวปลั๊กอินรองรับภาษาไทยอยู่แล้วแทบไม่ต้องแปลเลย ประหยัดเวลาไปได้เยอะ 3.Drag & Drop หน้าตาการใช้งานเรียบง่ายมาก การสร้างฟอร์มทำได้สะดวก เราสามารถลากฟิลด์มาวางได้เลย มีฟิลด์ให้เลือกเพียบ วันที่,...
ปลั๊กอินเวิร์ดเพรส
ปลั๊กอินเวิร์ดเพรส นี้จะเพิ่มกล่องแจ้งระยะเวลาที่ลูกค้าจะได้รับสินค้าในหน้าสั่งซื้อ จากที่ผมทดสอบใช้จริงและวัดผลด้วยการทำ A/B Testing ได้ผลออกมาว่าหน้าที่มีการแจ้งระยะเวลารับสินค้า Conversion Rate เพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 17.5% เลย ผมเลยเขียนเป็น Plugin มาแจกซะเลย ปลั๊กอินเวิร์ดเพรส นี้จะช่วยลดจำนวนคำถามจากลูกค้าให้น้อยลงได้ เว็บไซต์ใหญ่ ๆ อย่าง Lazada, Apple เค้าก็จะมีการแจ้งระยะเวลาที่คาดว่าจะได้รับสินค้าไว้ในขั้นตอนการสั่งซื้อเลย เพื่อให้ลูกค้าทราบและลดจำนวนการสอบถามเข้ามายัง Call center หรือที่เว็บไซต์เอง ลดทั้งจำนวนงานที่ต้องคอยตอบคำถามและเพิ่มประสิทธิภาพให้เว็บไซต์ไปในคราวเดียว ขายดีขึ้นกว่าเดิม จากที่ผม monitor ดูหลังบ้านจะมีลูกค้าที่ส่งอีเมลหรือโทรศัพท์เข้ามาสอบถามบ่อยครั้ง ว่าสั่งสินค้าไปแล้ววันไหนจะได้รับสินค้า เป็นคำถามยอดฮิตคำถามหนึ่งที่ถามบ่อยมาก ผมเองแก้ไขโดยเพิ่มไว้ใน FAQ จนมาเจอวิธีนี้ที่ผมเองได้นำไปใช้จริงและได้ผลดีเกินคาดคือ ลูกค้าถามเข้ามาน้อยลงกว่าเดิมมากและ conversion rate เพิ่มขึ้น 17.5% เรียกให้เข้าใจง่าย ๆ ว่าขายดีขึ้นกว่าเดิม 17.5% ตัวเลขนี้มาจากการทำ A/B Testing นะครับ ไว้บทความหน้าผมจะนำมาเขียนให้อ่านกันว่าทำ A/B Testing เนี่ยทำไปทำไม มีข้อดียังไง ทำไมถึงต้องทำ ตัวอย่างหลังจากติดตั้งปลั๊กอิน โหลดกันเลย คลิกที่นี่ จบแล้ว หากอ่านแล้วชอบบทความจาก CodingDee ก็ฝาก กดไลค์เพจ ด้วยนะครับ จะได้ไม่พลาดข่าวสารเทคนิคดี ๆ จากเรา หรือติดปัญหาตรงไหนก็คอมเมนต์ไว้ด้านล่างนี้ได้ ไว้พบกันบทความต่อไปครับ

Google Tag Manager

ecommerce tracking

Ecommerce Tracking For Woocommerce

Ecommerce Tracking สร้างได้ใน 7 ขั้นตอน ช่วยให้เราวัดผล Conversion บนเว็บไซต์ได้ง่ายขึ้น เหมาะสำหรับทีม Marketing เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลการสั่งซื้อสินค้า..  Ecommerce Tracking สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่า E-commerce Tracking คืออะไร แล้วทำไปทำไม ผมจะอธิบายให้เข้าใจในเบื้องต้นก่อนนะครับ E-commerce Tracking ก็คือการติดตามพฤติกรรมการซื้อของลูกค้าที่เข้ามาซื้อสินค้าภายในเว็บไซต์ของเรา ว่าเค้ามีพฤติกรรมการใช้งานอย่างไรบ้างเช่น ลูกค้าเข้าเว็บเรามาจากช่องทางไหน อาจจะมาจาก Facebook หรือมาจาก...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

บันทึกการตั้งค่า